การวิจัยพบว่ากาแฟในตอนเช้าอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
การศึกษาใหม่พบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟในตอนเช้าเป็นหลัก อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ โดยเฉพาะจากโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับคนที่จิบกาแฟตลอดทั้งวันหรือไม่ดื่มเลย ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์ในวารสาร European Heart Journal โดยตรวจสอบข้อมูลของผู้ใหญ่ชาวสหรัฐอเมริกาจำนวนกว่า 40,000 คน ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่เกี่ยวกับปริมาณและช่วงเวลาในการบริโภคกาแฟ รวมถึงผลกระทบต่ออายุขัยอีกด้วย
จากการสำรวจผลการตรวจสอบสุขภาพและโภชนาการแห่งชาติ (NHANES) , Women’s Lifestyle Validation Study(WLVS) และ Men’s Lifestyle Validation Study (MLVS) พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟในตอนเช้ามีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 16% เมื่อเทียบกับผู้ที่ดื่มกาแฟตลอดทั้งวันหรือผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ โดยในช่วงติดตามผล 10 ปี ผู้ที่ดื่มกาแฟในตอนเช้ามีโอกาสเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงถึง 36%
โดยประมาณ 36% ของผู้เข้าร่วมการศึกษาเป็นผู้ดื่มกาแฟในตอนเช้า (โดยหลักจะดื่มกาแฟให้หมดก่อนเที่ยงวัน) 16% ของผู้เข้าร่วมจะดื่มกาแฟตลอดทั้งวัน (เช้า บ่าย และเย็น) และ 48% ไม่ดื่มกาแฟ
Lu Qi หัวหน้าคณะนักวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคอ้วนแห่งมหาวิทยาลัย Tulane กล่าวว่า แม้การศึกษาจะไม่ได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟในตอนเช้าจะช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะการดื่มกาแฟในช่วงเย็นอาจไปรบกวนนาฬิกาชีวภาพภายในร่างกายของบุคคลนั้นได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อดูว่าผลการค้นพบดังกล่าวสามารถสังเกตได้ในกลุ่มประชากรอื่น ๆ ด้วยหรือไม่“เราจำเป็นต้องมีการทดลองทางคลินิกเพื่อทดสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนเวลาในแต่ละวันเมื่อผู้คนดื่มกาแฟ การศึกษานี้ไม่ได้บอกเราว่าเหตุใดการดื่มกาแฟในตอนเช้าจึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด คำอธิบายที่เป็นไปได้คือ การดื่มกาแฟในช่วงบ่ายหรือเย็นอาจรบกวนจังหวะการทำงานของร่างกายและระดับฮอร์โมน เช่น melatonin ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น การอักเสบและความดันโลหิต”
การศึกษายังพบอีกว่าปริมาณกาแฟที่ดื่มในตอนเช้าอาจเกี่ยวข้องกับความยืนยาวของอายุ ผู้ที่ดื่มกาแฟในตอนเช้าได้รับประโยชน์จากความเสี่ยงที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดื่มในระดับปานกลาง (สองถึงสามแก้ว) หรือผู้ที่ดื่มหนัก (มากกว่าสามแก้ว) ผู้ที่ดื่มในระดับเล็กน้อยในตอนเช้า (หนึ่งแก้วหรือน้อยกว่า) ยังคงมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่ลดลง แต่ก็สังเกตได้เพียงเล็กน้อย
การศึกษานี้ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติให้กาแฟเป็นเครื่องดื่ม “เพื่อสุขภาพ” ตราบใดที่มีแคลอรี่น้อยกว่า 5 แคลอรี่ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาล่าสุดอีกฉบับหนึ่งที่กล่าวว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำช่วยเพิ่ม “ช่วงชีวิตที่มีสุขภาพแข็งแรง” โดยเฉลี่ยของมนุษย์ได้เกือบสองปี หรือก็คือระยะเวลาที่ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีโดยไม่เกิดโรคร้ายแรงนั่นเอง